4 วิตามินรักษาสิว วิตามินซี / วิตามินอี / วิตามินบี 3 / วิตามินบี 5 / วิตามินลดสิว
“วิตามินรักษาสิว” สาว ๆ หลาย ๆ คนที่เป็นสิว ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยสิวสาวยังมีอยู่ คงจะสนใจกับวิตามินกันบ้าง สำหรับการใช้วิตามินเพื่อจัดการสิว เป็นการดูแลสุขภาพจากภายในผ่านการบำรุงด้วยวิตามินต่าง ๆ นอกจากนี้ยังรักษาสิวผ่านภายนอกด้วยการทาครีมที่ผสมวิตามิน ว่าแต่จะมีเหล่าวิตามินอะไน ที่ช่วยดูแลรักษาสิวได้บ้าง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
สำหรับวิตามินที่จะพูดถึงกันในวันนี้จะมีอยู่ 4 ตัว ได้แก่ วิตามินซี (Vitamin C) , วิตามินอี (Vitamin E) , วิตามินบี 3 (Vitamin B3) และ วิตามินบี 5 (Vitamin B5) เรามาดูกันเลยดีกว่า ว่าวิตามินแต่ละตัวมีความสามารถช่วยดูแลสิวได้ยังไงกันบ้างนะ — วิตามินรักษาสิว
วิตามินซี (Vitamin C) ดูแลสิว ริ้วรอยแดง จุดด่างดำ
วิตามินซี (Vitamin C) จัดได้ว่าเป็นวิตามินสารพัดประโยชน์ตัวหนึ่ง ประโยชนน์ของวิตามินซีช่วยบำรุงผิวได้ดี ซึ่งก็รวมไปถึงประโยชน์ในการดูแลรักษาสิวด้วย วิตามินซีรักษาสิว รอยสิว รอยแดด จุดด่างดำ หรือแผลที่เกิดจากหลังเป็นสิวได้ เพราะมีส่วนในการเข้าไปช่วยสร้างคอลลาเจน
แต่ก็ไม่ได้มีส่วนที่สามารถช่วยลดการเกิดสิวสักเท่าไร จะเอาดีหรือหนักไปทางช่วยรักษาริ้วรอย รอยแดง หรือจุดด่างดำ ที่เกิดหลังจากเป็นสิวซะมากกว่า เนื่องจากวิตามินซีนั้นทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นสำหรับช่วยบำรุงดูแลผิวในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน และยังสามารถช่วยซ่อมแซมเติมเต็มเซลผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมาดีดังเดิม
สามารถช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ซึ่งทำให้เหมาะกับคนที่เป็นรอยสิว หรือเป็นหลุมสิวอย่างยิ่ง เพราะคนที่มีปัญหาในลักษณะนี้คือคนที่คอลลาเจนที่อยู่ใต้พื้นผิวถูกทำลายอย่างรุนแรง บางรายก็เกิดเป็นหลุมสิวลึก ๆ ตรงผิวบริเวณนั้นก็มักจะมีพังผืดต่าง ๆ ไปยึดเกาะไว้ ทำให้เซลผิวไม่สามารถทำการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้นั่นเอง
การใช้วิตามินซี หรือกินวิตามินซีก็จะช่วยทำให้ผิวของสาว ๆ มีการเร่งสร้างคอลลาเจนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นเพราะว่าบางครั้งการรับประทานอาหารทั่ว ๆ ไปในแต่ละวัน อาจจะทำให้เพื่อน ๆ ไม่ได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอ จะให้มานั่งนับปริมาณการกิน หรือนั่งคำนวณกันก็คงจะไม่มีเวลา
อาหารเสริมวิตามินซีก็เลยเป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การกินวิตามินซีก็ไม่ควรกินเกินวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะเป็นปริมาณที่ร่างกายของเราสามารถดูดซึมได้ แต่ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ คนไหนมั่นใจว่ากินผัก ผลไม้ อาหาร ที่มีวิตามินมากพอดีอย่างเพียงพอแล้ว
เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินอาหารเสริมวิตามินซี และจะดีต่อสุขภาพมาก ๆ ซะอีกที่เพื่อน ๆ ได้รับวิตามินซีจากธรรมชาติโดยตรง ซึ่งถ้าใครไม่ค่อยมีเวลากินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็อย่าลืมหาวิตามินซีมากินเพื่อบำรุงสุขภาพกันด้วยนะค่ะ
วิตามินอี (Vitamin E) รักษาสิว หลุมสิว รอยแดง
วิตามินอี (Vitamin E) สำหรับวิตามินอีเป็นวิตามินที่มีสารที่สามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย เป็นส่วนในการช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของเราทำงานประสานกันให้ดีอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น มีส่วนในการทำให้ระบบการทำงานของผิวพรรณของสาว ๆ ทำงานได้อย่างให้ดีมากขึ้น จึงเป็นตัวช่วยส่งผลให้พวกริ้วรอย จุดด่างดำ หรือรอยสิวต่าง ๆ แลดูจางลงได้
เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่นิยมใช้เข้ามาช่วยรักษารอยสิว รอยแดง หลุมสิว โดยใช้ได้ทั้งการกินและทา ซึ่งก็มีตัวเลือกอาหารเสริมวิตามินอีต่าง ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกกินมากมายหลายยี่ห้อ ปริมาณแนะนำที่กินก็ไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัม ถ้าหากสาว ๆ กำลังสนใจการรักษาหลุมสิวด้วยวิตามินอี (Vitamin E) ก็ลองหาดูกันได้เลยนะค่ะ
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) ลดการเป็นสิว ให้ผิวเนียน นุ่ม ชุ่มชื่น
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) หรือเจ้า Nicotinamide จัดได้ว่าเป็น co-enzyme ที่มีส่วนสำคัญที่สามารถช่วยในการเผาผลาญพลังงาน และยังสามารถช่วยสังเคราะห์ไขมัน จากการศึกษาได้มีการค้นพบว่าวิตามินบี 3 นั้นสามารถช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณของสาว ๆ ให้ดีขึ้น
ช่วยให้ผิวของเราสามารถกักเก็บน้ำได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีความสามารถในการกำจัดเหล่าแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว มีการค้นพบว่า Niacinamide 4 เปอร์เซ็น จะมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวพอ ๆ กับ Clindamycin 1 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของวิตามินบี 3 ยังมีส่วนช่วยป้องกันและเสริมสร้างคอลลาเจน เพื่อให้สามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจเครื่องสำอางค์ในปัจจุบันนั้น หลาย ๆ ยี่ห้อก็ได้ใส่วิตามินบี 3 เข้าไป ใช้เป็นส่วนผสมหลักหรือส่วนผสมรองมากมายหลายยี่ห้อ เพราะว่าสรรพคุณและประสิทธิภาพมากมายจนหลายคนยังต้องมองหา วิตามินบี 3
วิตามินบี 5 (Vitamin B5) ลดหน้ามัน สาเหตุของสิว
วิตามินบี 5 (Vitamin B5) เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่มีส่วนช่วยลดการเกิดสิวได้ดี โดยจะทำหน้าที่เข้าไปมีส่วนช่วยในเรื่องการลดการผลิตน้ำมันบนใบหน้า เมื่อหน้าไม่มัน สิวก็ไม่เกิด ช่วยลดการเกิดสิวได้อีกหนึ่งทาง โดยมันช่วยให้ร่างกายของเราสร้าง Coenzyme-A
ซึ่งใช้กับการเผาผลาญพลังงานให้กับร่างกาย และยังสามารถเข้าไปช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายของเราได้ดีขึ้น
ซึ่งเมื่อความมันที่ผิวหน้าของเรานั้นน้อยลง สาเหตุของการอุดตันและเกิดสิวก็น้อยลงไปด้วย แต่สำหรับในบางครั้งการกินอาหารเสริมวิตามินบี 5 นั้นอาจจะไม่มีความจำเป็นเสมอไป เพราะวิตามินบี 5 นั้น มีประกอบอยู่ในอาหารเกือบ ๆ จะทุกชนิด และปริมาณที่คนเราก็ต้องการก็น้อยมาก
สำหรับวิตามินบี 5 ทำให้การกินอาหารตามปกติก็น่าจะเพียงพอแล้วกับการดูแลสุขภาพ สำหรับการกินอาหารเสริมวิตามินบี 5 นั้นจะเป็นการเหมาะกับคนที่ขาดวิตามินบี 5 อย่างรุนแรงซะมากกว่า ถ้าหากว่าใครไม่ขาดวิตามินบี 5 ก็อาจจะไม่มีจำเป็นต้องหามากินเพิ่มแต่อย่างใด
วิตามินลดสิว
และนั้นก็จบกันไปสำหรับ 4 วิตามินลดสิว วิตามินที่สามารถช่วยในการรักษาสิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยสิวต่าง ๆ วิตามินเป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วเพื่อน ๆ ก็ควรเลือกกินเลือกใช้วิตามินต่าง ๆ ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมด้วย หากเราบริโภควิตามินมากเกินความพอดีก็อาจจะส่งผลเสียให้กับร่างกายของเราได้เหมือนกัน
การกินอาหารที่มีประโยชน์มีวิตามินอย่างเพียงพอต่อหนึ่งวันก็สามารถช่วยลดการเกิดสิวได้เช่นกัน หากใครไม่ค่อยได้ทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ก็เหมาะกับการกินวิตามินอาหารเสริมเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ หรือรักษาสิว ดูแลผิวพรรณ แต่หากใครกินอาหารครบ 5 หมู่ได้ทุกวันก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมวิตามินเพิ่มเติมแต่อย่างใด วันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่ะ — วิตามินซียี่ห้อไหนดี